Page 93 - Annual report thai 2019
P. 93
ุ
บริษัท ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กร๊ป (ประเทศไทย) จ ำกัด (มหำชน)
่
4.15 กำรวัดมูลคำยุติธรรม
ั
็
ู
ื
ิ
ั
ึ
ิ
่
่
่
ี
มลค่ำยุตธรรม หมำยถง รำคำทคำดว่ำจะได้รบจำกกำรขำยสนทรพย์หรอเปนรำคำทจะต้องจ่ำยเพือ
ี
ิ
ี
ื
่
ื
็
ึ
ี
่
ิ
โอนหน้สนให้ผู้อนโดยรำยกำรดังกล่ำวเปนรำยกำรทเกิดข้นในสภำพปกตระหว่ำงผู้ซ้อและผู้ขำย
ู
ื
ิ
ี
่
ู
่
(ผู้ร่วมในตลำด) ณ วันทวัดมลค่ำ บรษัทฯใช้รำคำเสนอซ้อขำยในตลำดทมสภำพคล่องในกำรวัดมลค่ำ
ี
ี
ั
ี
ิ
ยุตธรรมของสนทรพย์และหน้สนซงมำตรฐำนกำรรำยงำนทำงกำรเงนทเกียวข้องก ำหนดให้ต้องวัด
ิ
ิ
่
ึ
ี
่
่
ิ
ิ
มลค่ำด้วยมลค่ำยุตธรรม ยกเว้นในกรณทไม่มตลำดทมสภำพคล่องส ำหรบสนทรพย์หรอหน้สนทม ี
ี
ี
ั
ี
ิ
่
ี
่
ี
ู
ี
ิ
่
ื
ี
ั
ู
ิ
ื
ี
ี
ื
ลักษณะเดยวกันหรอไม่สำมำรถหำรำคำเสนอซ้อขำยในตลำดทมสภำพคล่องได้ บรษัทฯจะประมำณ
่
ี
ู
ี
่
์
ิ
ิ
ิ
ู
ู
มลค่ำยุตธรรมโดยใช้เทคนคกำรประเมนมลค่ำทเหมำะสมกับแต่ละสถำนกำรณ และพยำยำมใช้ข้อมล
ื
ั
ิ
่
ู
ทสำมำรถสังเกตได้ทเกียวข้องกับสนทรพย์หรอหน้สนทจะวัดมลค่ำยุตธรรมนั้นให้มำกทสด
ี
ี
่
ี
ิ
่
่
ุ
ี
ิ
่
ี
ั
่
ี
ู
ิ
ิ
ิ
ิ
ู
ู
ิ
ล ำดับชั้นของมลค่ำยุตธรรมทใช้วัดมลค่ำและเปดเผยมลค่ำยุตธรรมของสนทรพย์และหน้ ีสนใน
่
็
ู
งบกำรเงนแบ่งออกเปนสำมระดับตำมประเภทของข้อมลทน ำมำใช้ในกำรวัดมลค่ำยุตธรรม ดังน้ ี
ิ
ู
ี
ิ
ื
ี
ู
ิ
ั
ิ
ี
ระดับ 1 ใช้ข้อมลรำคำเสนอซ้อขำยของสนทรพย์หรอหน้สนอย่ำงเดยวกันในตลำดทมสภำพคล่อง
ี
ี
่
ื
ิ
่
็
ื
ื
ิ
ั
ู
ี
ื
ี
ระดับ 2 ใช้ข้อมลอนทสำมำรถสังเกตได้ของสนทรพย์หรอหน้สน ไม่ว่ำจะเปนข้อมลทำงตรงหรอ
่
ู
ทำงอ้อม
ระดับ 3 ใช้ข้อมลทไม่สำมำรถสังเกตได้ เช่น ข้อมลเกียวกับกระแสเงนในอนำคตทกิจกำรประมำณ
ี
่
ู
ู
ิ
่
่
ี
ึ
ข้น
ทกวันส้นรอบระยะเวลำรำยงำน บรษัทฯจะประเมนควำมจ ำเปนในกำรโอนรำยกำรระหว่ำงล ำดับชั้น
ิ
ิ
็
ิ
ุ
ิ
ี
ิ
ี
ื
ี
่
ิ
ิ
่
ู
ั
ั
ของมลค่ำยุตธรรมส ำหรบสนทรพย์และหน้ ีสนทถออยู่ ณ วันส้นรอบระยะเวลำรำยงำนทมกำร
ิ
ู
วัดมลค่ำยุตธรรมแบบเกิดข้นประจ ำ
ึ
้
ี
ิ
่
5. กำรใชดุลยพินจและประมำณกำรทำงบัญชทีสำคัญ
ุ
ิ
ิ
่
ิ
็
ในกำรจัดท ำงบกำรเงนตำมมำตรฐำนกำรรำยงำนทำงกำรเงน ฝำยบรหำรจ ำเปนต้องใช้ดลยพินจและ
ิ
ื
ุ
่
ิ
ี
ี
่
กำรประมำณกำรในเรองทมควำมไม่แน่นอนเสมอ กำรใช้ดลยพินจและกำรประมำณกำรดังกล่ำวน้ ี
่
่
ุ
ี
ี
ิ
ส่งผลกระทบต่อจ ำนวนเงนทแสดงในงบกำรเงนและต่อข้อมลทแสดงในหมำยเหตประกอบ
ิ
ู
ิ
ุ
่
ิ
่
ี
ี
ิ
งบกำรเงน ผลทเกิดข้ ึนจรงอำจแตกต่ำงไปจำกจ ำนวนทประมำณกำรไว้ กำรใช้ดลยพินจและ
กำรประมำณกำรทำงบัญชทส ำคัญมดังน้ ี
ี
่
ี
ี
รำยกำรปรบลดสนคำคงเหลอในมูลคำสุทธทีจะไดรบ
ิ
่
้
้
ั
ื
ิ
ั
่
ิ
ิ
ิ
ุ
ในกำรประมำณรำยกำรปรบลดสนค้ำคงเหลอในมลค่ำสทธทจะได้รบ ฝำยบรหำรได้ใช้ดลยพินจใน
ั
ั
ู
่
่
ี
ิ
ุ
ื
่
ิ
ิ
ั
ิ
ู
ิ
ี
ุ
ั
่
ี
ื
กำรประมำณมลค่ำสทธทจะได้รบของสนค้ำคงเหลอ โดยจ ำนวนเงนทคำดว่ำจะได้รบจำกสนค้ำ
่
ิ
่
ี
ื
คงเหลอพิจำรณำจำกกำรเปลยนแปลงของรำคำขำย ต้นทนและค่ำใช้จ่ำยทเกียวข้องโดยตรงกับสนค้ำ
่
ี
ุ
ิ
่
ึ
ิ
ุ
ิ
คงเหลอทเกิดข้นภำยหลังวันทในงบกำรเงน และฝำยบรหำรได้ใช้ดลยพินจในกำรประมำณกำร
่
่
ี
ี
ื
ึ
ิ
่
่
ผลขำดทนทคำดว่ำจะเกิดข้นจำกสนค้ำเสอมคณภำพ โดยค ำนงถงอำยุของสนค้ำคงเหลอและสภำพ
ุ
ี
ึ
ิ
ื
ึ
ื
ุ
ของสนค้ำในขณะนั้น
ิ
81