ประภทของเหล็กลวดสามารถจำแนกตามการใช้งานได้ 6 ประเภท :
A.ใช้งานทั่วไป
โดยปกติแล้วเหล็กลวดที่นำไปใช้เป็นเหล็กลวดคาร์บอนต่ำ ผลิตมาจากเหล็กแท่ง มีขนาดตั้งแต่ขนาด 5.5 มม. -19 มม. นำมาลดขนาดให้ได้ตามที่ต้องการด้วยวิธีการรีดเย็น และชุบด้วยสังกะสีเพื่อกันสนิม โดยทั่วไปจะใช้เหล็กลวดในการผลิต ตะปู ลวดตาข่ายรั้วลวดหนาม ตะแกรง เป็นต้น
B.ลวดเชื่อม
หลังจากเหล็กลวดผ่านกระบวนการรีดเย็นแล้วสามารถนำไปทำลวดเชื่อมได้ ลวดเชื่อมแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือลวดเชื่อมโลหะด้วยก๊าซ และลวดเชื่อมโลหะด้วยไฟฟ้า ลักษณะของลวดเชื่อมขึ้นอยู่กับการผสมสารเคมีอย่างสอดคล้องและมีปริมาณส่วนผสมของกำมะถันน้อยกว่า 0.023%
C.ฟาสเทนเนอร์
ฟาสเทนเนอร์ผลิตมาจากลวดที่มีความต้านทานสูง ราคาสูง และผสมคาร์บอนน้อยกว่า 0.5 % ในการผลิตฟาสเทนเนอร์มี 3 ขั้นตอน คือ การขึ้นรูปหัว การรีดเกลียว และการชุบผิว ฟาสเทนเนอร์มีหลายประเภท เช่น น็อต ตะปูเกลียว สลักเกลียว หมุด สลักยึด แท่งเกลียว และ ซ๊อกเก็ต เป็นการเชื่อมโยงหลายอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมยานยนต์, อุปกรณ์เครื่องใช้, การก่อสร้างเชิงพานิชย์
D.อุตสาหกรรมก่อสร้าง
เหล็กลวดคาร์บอนสูง ถูกใช้อย่างกว้างขวางในภาคอุตสาหกรรม เช่น :
(A) เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต สำหรับโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก
(B) ลวดเหล็กขนาดใหญ่ สำหรับงานโครงสร้างอุตสาหกรรมที่ต้องการคุณภาพสูง
(C) ลวดสลิงสำหรับทำสายเคบิล
E.ลวดสปริง
เหล็กลวดคาร์บอนสูงใช้ทำลวดสปริง เช่น :
(A) ลวดเหล็กที่ผ่านกระบวนการรีดร้อน และลวดเหล็กชุบแข็งสำหรับทำลวดสปริงเครื่องจักร
(B) ลวดเปียโนชุบแข็งสำหรับวาล์วสปริง และลวดเปียโนชุบแข็ง
F.อุตสาหกรรมยานยนต์
เหล็กลวดต้องรีดเป็นลวดเหล็กขนาดเล็กให้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 0.15 มม. – 0.38 มม. นำมาใช้เพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับยางรถยนต์ โดยลวดเหล็กจะต้องมีคุณสมบัติความต้านแรงดึง และความหนาแน่นสูง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายใดๆ กับกระบวนการผลิต
แผนผังกระบวนการผลิตเหล็กลวด :
การผลิตเหล็กลวดใช้เหล็กแท่งเป็นวัตถุดิบหลักผ่านการดำเนินการ 8 ขั้นตอน ดังนี้ การดัดตรง การทำความสำอาดด้วยการยิงเม็ดเหล็ก การทดสอบสนามแม่เหล็ก การเจียรแต่งผิว การอบ การรีดหยาบ การรีดกลาง การรีดละเอียด
การดัดแท่งเหล็ก
ทดสอบสนามเเม่เหล็ก
การเจียรแต่งผิว
การอบแท่งเหล็ก
การรีดหยาบ
การรีดกลาง
การรีดละเอียด
การทดสอบแรงกด
การมัด
การขนส่ง